Are you lacking of “CALCIUM”? แคลเซียมมีไม่พอ "ภัยเงียบ" ที่ทุกคนต้องระวัง

View this thread on: d.buzz | hive.blog | peakd.com | ecency.com
·@giantkidishere·
0.000 HBD
Are you lacking of “CALCIUM”? แคลเซียมมีไม่พอ "ภัยเงียบ" ที่ทุกคนต้องระวัง
Hello All Steemit Friends 
What happen if there is not enough **“CALCIUM”** in our body? And have you ever heard about **“Losing Bone Mass”?** Actually we didn’t know until we got the accident and found out that our bone was broke easily. In this post I will talk about people who are above 30 years old because the people who are under 30 years old, the body still good enough to create their own calcium. And I am the one who have to take care about the **“CALCIUM”** because I am more than 30 years old now :D

สวัสดีตอนเช้าๆนะคะทุกคน วันนี้ขอเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับแคลเซียมนะคะ ภัยใกล้ตัวที่เราทุกคนควรทราบ
สำหรับเพื่อนๆท่านใดที่มีปัญหาเรื่องของการขาดแคลเซียม ซึ่งมีผลทำให้เกิดภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน (จริงๆดูไม่ออกหรอจนกว่าจะล้มกันขึ้นมานั่นแหละถึงจะ "อ๋อ" ตรวจเจอกัน) วันนี้มีเคล็ดไม่ลับมาฝากนะคะ แต่ก่อนเข้าเรื่องขอชี้แจงก่อนว่าที่ต้องเน้นเรื่องอายุเพราะตามหลักการแพทย์ แคลเซียมยังคงผลิตได้เองอย่างต่อเนื่องในคนที่มีอายุต่ำกว่าสามสิบปี (เราก้อเลยเป็นห่วงเค้าไม่มากเท่าคนที่อายุ 30+เนอะ) เช่นคนในรูปนี่ก้อ 30+ แระ อยู่ในกลุ่มเสี่ยงด้วยเหมือนกัน

![IMG_3357.JPG](https://steemitimages.com/DQmbrMhWASEfauAETefC7ebcp8GRYUeeV6MgeHnVzGdeV4E/IMG_3357.JPG)

As I was learnt from my mother in law who has lot of information about **“healing by natural”**, she gave a lot of advices, she told me that being the CANCER SURVIVOR  was not easy, especially when the doctor said **“you don’t have even 10% to be survived”** from that day my mother in law try her best to be survived . So all I share about **“CALCIUM”** will be the our research which got a great result for us already. 

As you know that in term of having the strong bones, we need “CALCIUM” about 800 – 1,000 milligram / day, otherwise we might have the “losing bone mass” situation. Let’s imagine that the body is like the house and the bones are the bricks for building the house, so the house will be collapsed if the bricks are not strong enough.  So this is very important information that we need to know about “CALCIUM”

**ต้องบอกก่อนนะคะว่าเราโชคดีที่คุณแม่สามีมีความรู้ทางด้านโภชนาการและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติบำบัดให้ เนื่องจากคุณแม่เป็นผู้รอดชีวิตจากการเป็นมะเร็งขั้นที่ 4 รอดชีวิตมาอย่างปฏิหารด้วยการรักษาโดยธรรมชาติ ฉะนั้นความรู้ทุกอย่างที่เราถ่ายทอดจะเป็นเรื่องที่คุณแม่หรือตัวเราเองทดลองแล้วได้ผลจึงนำมาถ่ายทอดกับเพื่อนๆนะคะ** 

อย่างที่ทราบกันนะคะว่าร่างกายเราต้องการแคลเซียม 800- 1,000 มิลิกรัม / วัน ในการสร้างเสริมมวลกระดูกของเราให้แข็งแรงเพราะถ้าใครมีปัญหากระดูกบางกระดูกพรุนตั้งแต่วันนี้รับรองว่าจะมีอีกหลายประเด็นสุขภาพตามให้รักษาอย่างแน่นอนเพราะกระดูกเปรียบเหมือนอิฐซึ่งเป็นรากฐานของตึก ถ้ารากฐานของตึกไม่แข็งแรงขึ้นมา ไม่นานหรอกค่ะตึกก้อคงจะพังถล่มลงมาเช่นกัน ดังนั้นอันนี้เป็นเรื่องสำคัญนะคะโดยเฉพาะเพื่อนๆผู้หญิงที่ยังไม่มีบุตรหรือเตรียมจะมี แต่มามีปัญหาเรื่องแคลเซียมเสียก่อน ไม่เป็นผลดีเลยนะคะควรใส่ใจเป็นพิเศษ  

![18058134_1296430393756672_8387253084197662945_n.jpg](https://steemitimages.com/DQmc4HLPufoFmtoBV3JsGz7Hoi1UZasqpaLMGJAL5fkKA88/18058134_1296430393756672_8387253084197662945_n.jpg)

**The Main Keys Which’re Very Easy and Practical Are:**
- Taking **"CALCIUM"** from the nature which might be the animal milk or almond milk but in case you can't drink any milk you might try the vegetable or some fish or tiny shrimp which shells are eatable. 

- I recommended the **"CALCIUM"** from nature because there in no worry about the "Residue" from the chemical and stuck into our blood pipes. But in case you cannot take the **"CALCIUM"** from the nature, so it is ok to buy Calcium from the store but try to read and find the one that make from vegetable.

หลักการง่ายๆสั้นๆใช้ได้จริง ที่คุณแม่สามีถ่ายทอดมาก้อคือ  
**ทานแคลเซียมจากแหล่งธรรมชาติ**
- นมไง สำหรับใครที่มีปัญหาลำไส้ไม่มีสารย่อยนม ลองดื่มนมจากพืชดูเช่นนมจากเมล็กแอลมอลก้อน่าจะพอได้
- ถ้าดื่มนมไม่ได้เลยก้อให้หาแคลเซียมจะผักหรือสัตว์มีเปลือกทานแทน เช่น ผักคะน้าหนึ่งขีดก้อปาเข้าไป 300 มิลิกรัมแล้ว ผักกระเฉดอีกหนึ่งขีดก้อมีตั้ง 390 มิลิกรัม ปลาตัวเล็กๆหรือกุ้งฝอยทานสุกทานแบบทั้งเปลือกก้อน่าจะได้อีกสัก 400 มิลิกรัม อันนั้นก้อใช้ได้ ส่วนตัวอย่างผักไว้จะมาโพสต่อในโพสต่อไปนะคะ มันเยอะ)

**ทานแคลเซียมสำเร็จรูป** 

- อันนี้ก้อง่ายดีแถมมีหลายยี่ห้ออีกต่างหาก เอาเป็นว่าถ้าทานจากธรรมชาติครบ 800- 1,000 มิลิกรัม มันดีสุดเพราะไม่ต้องเสียเงินไม่ต้องเสี่ยงเรื่องสารตกค้างไม่ต้องห่วงหลอดเลือดของเรามาก แต่ถ้าใครไม่ไหวจะเครียร์ไม่มีเวลา จะทานแบบสำเร็จรูปก้อไม่ว่ากัน แต่ถ้าเลือกได้ให้เลือกแคลเซียมจากพืช ไม่รู้ยี่ห้อไหนนะคะ ถ้าหากันเจอแล้วอยากจะบอกว่าบางที่ไม่ต้องใช้วิตามิน D ในการช่วยร่ายกายดูซึมยังได้เลยนะ

**Getting vitamin D from the “SUN” especially from 7.00 -9.00 am** 
Because vitamin “D” is the key and very important to help and push the calcium for us so I recommend the vitamin D from the sun during 7.00 -9.00 am after 9.00 am it might be too strong and not good for you. 

**รับวิตามิน D เพื่อเอาไปช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีมากขึ้น** 
เพราะว่าถ้าร่างกายดูดซึมไม่ดี ต่อให้ทานแคลเซียมแพงแค่ไหนก้อเข้าร่างกายได้ไม่ถึง 10% แล้วส่วนที่เหลือยังไปเกาะตามผนังหลอดเลือดกลายเป็นโทษขึ้นมาเสียอีกไม่คุ้มกันเลย วิตามิน D ที่คุณแม่แนะนำก้อคือ วิตามิน D จากธรรมชาตินั่นก้อคือจากแสงแดดยามเช้านั่นเอง (จะได้หลีกเลี่ยงปัญหาสารตกค้าง)และแดดที่ดีที่สุดก้อคือแดดตอนเช้าช่วง 7.00-9.00 เพราะถ้าหลังจาก 9.00 ไปแล้วจะเป็นโทษต่อร่างกายไปเสียแล้ว 
![14022296_1053809814685399_2423656624164533140_n.jpg](https://steemitimages.com/DQmcmw4BAWyspUkhm12CjwNSkRTpA6rL8HJ68zGRbZEReRj/14022296_1053809814685399_2423656624164533140_n.jpg)

**Exercising**
I recommend weight training or walking on the hill, or any exercise which has the resistance because the muscles are like the labor to help you to build the house, if you imagine that the bones are like the bricks so the muscles are like the labors to build the house .. so the exercise is helped your body to absorb the calcium.

**ออกกำลังกายที่เป็นลักษณะการต้านแรง เช่นการวิ่งขึ้นเข้า วิ่งขึ้นเนิน เวทเทรนนิ่ง**
แคลเซียมที่ทานเข้าไปจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าเราไม่ออกำลังกายแบบแรงต้าน มันเกี่ยวกันยังไงล่ะ มันเป็นเหมือนแรงงานสร้างบ้านน่ะค่ะ ถ้าจำได้เราเปรียบเทียบแคลเซียมเหมือนก้อนอิฐไว้สร้างตึก แต่ถ้าเราไม่มีแรงงานมาช่วยกันขับเคลื่อนก้อนอิฐตึกมันจะเสร็จสมบูรณ์ได้ยังไง ก้อเหมือนกัน...การออกกำลังกายแบบแรงต้านเป็นเหมือนแรงงานเข้ามาช่วยร่างกายในการสร้างกระดูก
![IMG_3288.JPG](https://steemitimages.com/DQmPTwSNBDqymdmKeyQCz6fTF9x9aEUU8s9GYCRL9pM4h2b/IMG_3288.JPG)

Stop drinking “Soda” and stop drinking coffee more than 2 cups a day
Because all soda have a lot of “Phosphorus” once the calcium and phosphorus be together, they will do the reaction which has the bad effect to the bones, and you don’t need that. Also the coffee, I didn’t say that coffee is not good but drinking coffee more than 2 cups a day is too much because coffee will make you go to the bathroom and everything that it go, all mineral and calcium will go too. 

**งดการดื่มน้ำอัดลมเยอะๆ หรือการดื่มกาแฟที่มากกว่าสองแก้วต่อวัน**
- เพราะในน้ำอัดลมมีฟอสฟอรัสเมื่อเจอกับแคลเซียมที่ร่างกายรับเข้าไปจะทำปฏิกิริยาทำให้กระดูกพรุนง่ายขึ้น ส่วนกาแฟนี่แค่เป็นตัวนำพา เพราะการดื่มกาแฟมากกว่าสองแก้วต่อวันจะทำให้ปัสสาวะบ่อยและนี่แหละจะเป็นตัวนำไปสารอาหารต่างๆออกทางการปัสสาวะ

**สุดท้ายฝากไว้นิดนึงเรื่องของสุขภาพนะคะ เพราะสุขภาพดีมันหาซื้อไม่ได้จริงๆ ยิ่งอายุมากขึ้น อะไหล่ต่างๆมันก้อเสื่อมสภาพ ยิ่งถ้าไม่ดูแลใส่ใจมันก้อจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ อยากให้เพื่อนๆหันมาใส่ใจสุขภาพอย่างเข้าใจ เพราะกลไกของร่างกายของเราไม่ใช่เรื่องของคุณหมออีกต่อไป เราเองก้อรู้และเข้าใจร่างกายของเราได้ เริ่มกันตั้งแต่วันนี้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ**

ขอบคุณเพื่อนๆชาว Steemit ทุกท่านที่คอยติดตาม และโหวตให้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือคอมเม้นให้กำลังใจขอบคุณมากค่ะ 

Thank You Very Much For Your Following , Voting and Comments, They are Always Important For Me, Thank You.                                                                                                         Have a Wonderful Day
👍 , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,